Firebird เป็นฐานข้อมูล Free OpenSource RDBMS ตัวนึงที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
โดยมีขนาดรวมของระบบเล็กมาก (น้อยกว่า 10 MB) ถือว่าเป็น RDBMS
ที่สามารถติดตั้งและใช้งานจริงบนเครื่องจนๆ RAM ประมาณ 256 MB ได้อย่างสบาย
Firebird สนับสนุนลูกเล่นของ RDBMS ครบถ้วนทั้ง Trigger,
Stored Procedure โดย Firebird สามารถติดตั้งได้บน
Platform ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Windows, Linux,
Unix และ Mac OS X จึงทำให้ Firebird มีความยืดหยุ่นเพราะสามารถประยุกต์ใช้กับระบบทั้งเล็กและใหญ่ได้แต่คงต้องยอมรับว่าถ้าเปรียบเทียบความ
Friendly ในการใช้งานและความง่ายในการเรียนรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เพิ่งหัด
ใช้งาน RDBMS ก็คงยังสู้เจ้า Microsoft SQL Server ไม่ได้ แต่ถ้าเอาประสิทธิภาพมาเป็นตัวตั้ง และ ความยืดหยุ่นในการ Scale
ไปสู่ Platform ที่ใหญ่ขึ้น Firebird คุ้มค้าต่อการเรียนรู้
คุณสมบัติของ Firebird
1. สามารถรันได้หลาย Platform มานานแล้วอย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี
1999 ที่ผมเริ่มใช้ สำหรับโอเอสที่รันได้มี linux
,windows ,netware ,solaris ,freebsd ,HP-UX ,AIX ,Win CE สุดท้ายตามด้วย
Mac OS
2. ผ่านการรับรองมาตรฐาน SQL-Standard ANSI-92
3. มี Trigger
และ Store Procedure ให้ใช้เป็นการลดการ Programming
ไปได้มาก และทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น
4. ไฟล์ของ Database
เป็นแบบเดี่ยว หมายถึง เราสร้าง Database test ขึ้นมา เราจะได้แฟ้ม test.gdb มาหนึ่งตัว
ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยหลาย ๆ Table เวลาจะ Move ไปไหนจึงช่วยให้ไม่หลงลืม
5. สามารถ Split
File ได้ เช่น ไฟล์ฐานข้อมูลมีขนาดใหญ่เกิน 2 GB บน Linux จะไม่สามารถ handle ไฟล์ได้เกินกว่า
2 GB ( Linux รุ่นเก่า) เราสามารถแยกไฟล์ออกเป็นไฟล์ย่อย ๆ
ได้ เช่น สมมุติว่า test.gdb ขนาด 5 GB เราสามารถแตกออกเป็น test.gdb ขนาด 2 GB,
test.gd0 ขนาด 2 GB และ test.gd1 ขนาด 1 GB ได้ แต่เวลา Run จะมองผ่านไฟล์
test.gdb เพียงตัวเดียว
เมื่อถึงข้อมูลที่ต้องมองในลำดับถัดไปมันจะทำงานเอง
6. ระบบ Backup
Online คือ เราสามารถ Backup ได้ในขณะที่ผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่
7. บน Linux
สามารถ Run ได้ทั้งแบบ Classic หรือ Super Server แต่ถ้าหากใช้ Windows จะทำได้เฉพาะแบบ Super Server เท่านั้น ซึ่งการ Run
แบบ Classic หมายถึง user connect เข้า gdb มาจะนับ 1 process ส่วนแบบ
Super Server จะรันเพียงโปรเซสเดียวแล้วไปแตก thread ภายใต้โปรเซสอีกที แต่ข้อเสีย คือ จะต้องสิ้นเปลืองหน่วยความจำมากเช่นกัน
8. การโอนข้อมูลไปมาระหว่าง Windows กับ Linux ทำได้สะดวก ในกรณีที่มีการแอกเซสข้อมูลของ Interbase บนเครื่อง Windows แล้วอยากจะนำไปวิ่งบน Linux
ถ้าทำตามสูตร คือ ต้อง Backup ที่ Windows
ก่อน เสร็จแล้วต้องนำมา Restore บน Linux
จากการทดสอบ Copy ไฟล์เข้า Linux ก็สามารถทำงานได้เลยเช่นกัน
9. มีเครื่องมือต่าง ๆ ในการสร้าง Firebird Database มากมาย
ทั้งฟรีและไม่ฟรี ไปเสาะหากันได้ที่เว็บไซต์ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น
หรือจะพิมพ์สั่งที่เซิร์ฟเวอร์โดยใช้ SQL Command โดยตรงก็ได้
การติดตั้ง Firebird
การติดตั้ง Firebird บน Windows ถือเป็นเรื่องง่าย
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Firebird มาก่อน ในระหว่างการติดตั้งก็คือ
Architecture ของ Firebird ซึ่งมี 2
แบบคือ Classic และ Supper Server สำหรับผู้ที่ยังใหม่กับ Firebird และ ติดตั้งบน Platform
ของ Windows ขอแนะนำให้เลือกแบบ Supper
Server เมื่อทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้วจะเกิด Service ขึ้นมา 2 ตัว ชื่อ Firebird Guardian และ Firebird Server โดยตัวที่ทำหน้าที่ให้บริการด้านฐานข้อมูลก็คือ
Firebird Server ส่วน Firebird Guardian นั้นจะเป็น Service ที่คอยตรวจสอบดูว่า Firebird
Server นั้นมีการ Crash หรือไม่ หากมีการ Crash
ก็จะได้ทำหน้าที่ Start Firebird Server ขึ้นมาใหม่
ดังนั้นในช่วงของการพัฒนาโปรแกรมเราอาจจะประหยัดทรัพยาการของเครื่องโดยการ Stop
Firebird Guardian ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น